ถ้าพูดถึงเมนูชายอดฮิตในตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น ‘โฮจิฉะ’ หนึ่งในเมนูชาตัวใหม่ที่หลายๆคนก็น่าจะคุ้นหูกันบ้างแล้ว ว่าแต่โฮจิฉะคืออะไร ต่างจากชาอื่นๆ อย่างไร และนำไปทำอะไรได้บ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันค่ะ
โฮจิฉะ เป็นการรวมกันระหว่างคำ 2 คำ คือ โฮจิที แปลว่า คั่วไฟ และ ฉะที แปลว่า ชา ดังนั้นโฮจิฉะ จึงหมายถึงชาคั่วไฟนั้นเองค่ะ โดยการทำโฮจิฉะคือการนำใบชาเขียวที่ผ่านการอบแล้ว มาคั่วด้วยความร้อนที่ ประมาณ 200 องศาเซลเซียส จนใบชาเขียวกลายเป็นสีน้ำตาล เมื่อคั่วเสร็จแล้วก็จะนำใบชามาทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็ว ในการคั่วใบชาแบบดังเดิมจะใช้เตาถ่านในการคั่ว จึงทำให้โฮจิฉะมีกลิ่นหอมคั่วเตาถ่านที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โฮจิฉะหรือใบชาเขียวที่ผ่านการคั่วแล้วจะมีรสชาติที่นุ่ม ละมุน ดื่มง่าย และมีรสชาติขมน้อยกว่าชาเขียว เนื่องจากการคั่วใบชาด้วยความร้อนจะทำให้สารอาหารในใบชาเปลี่ยนไปและส่งผลต่อรสชาติของชา กล่าวคือการคั่วใบชาเขียวจะทำปริมาณคาเฟอีนในใบชาลดลงและทำให้รสชาติขมที่เกิดจากคาเฟอีนลดลงไปด้วย คนญี่ปุ่นจึงนิยมชงโฮจิฉะให้เด็กๆ ทานเพราะมีปริมาณคาเฟอีนน้อยนั่นเอง
เมื่อเราได้โฮจิฉะแล้ว ก็สามารถนำโฮจิฉะไปบดเป็นผงและนำไปแปรรูปสร้างสรรค์เป็นเมนูต่าง ๆ ได้อย่างชาเขียวเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์ครีม เค้ก หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ซึ่งนอกจากโฮจิฉะจะให้ความอร่อย ละมุนลิ้นแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยนะคะ สารอาหารในโฮจิฉะช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญของร่างกาย ลดคอเรสเตอรอล ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยให้ผิวและดูอ่อนเยาว์ และเป็นมิตรต่อสุขภาพช่องปากเนื่องจากมีปริมาณคาเฟอีนที่น้อย อีกทั้งกลิ่นของโฮจิฉะก็ช่วยทำให้ผู้ดื่มรู้สึกผ่อนคลายด้วยนะคะ ประโยชน์เยอะมาก ๆ เลย โฮจิฉะเหมาะกับ>สายอยากดื่มชาแต่ไม่อยากได้คาเฟอีนมากเลยนะคะ ได้รสละมุนเบา ๆ อร่อย ๆ แถมยังได้ประโยชน์อีก ต้องลองดื่มโฮจิฉะบ้างแล้วนะคะเนี่ย