กว่าที่ผงสีเขียวๆ มีกลิ่นหอม หรือ ‘มัทฉะ’ จะมาเป็นวัตถุดิบประจำคาเฟ่ที่เราคุ้นตานั้นมัทฉะกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร และทำอย่างไรจึงได้ออกมาเป็นมัทฉะ วันนี้ Chado Matcha จะมาเล่าการเดินทางของมัทฉะตั้งแต่จากต้นชาจนมาถึงในแก้วให้อ่านกันค่ะ
ก่อนจะเป็นมัทฉะ จริงๆ แล้ว กำเนิดของมัทฉะก็คือ ใบหรือยอดอ่อนของต้นชาเขียว โดยใบอ่อนที่ถูกเก็บมาใช้ในการทำมัทฉะนั้นจะเป็นใบที่เกิดอยู่ในพุ่มชาและได้รับร่มเงาจากใบชาใบอื่นๆ ซึ่งร่มเงาจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มการสร้างสารคลอโรฟลล์ในใบชาด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มัทฉะที่เราเห็นกันนั้นมีสีเขียวเข้ม สว่าง และอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากมาย
กระบวนการผลิตมัทฉะ หลังจากที่เก็บใบอ่อนของต้นชาเขียวด้วยมือมาเรียบร้อยแล้วก็จะทำการเด็ดก้านออกแล้วนำใบชานั้นไปอบไอน้ำประมาณ 1-2 นาที จากนั้นนำใบชาออกมาพักไว้ให้เย็นประมาณ 10 นาที และนำไปอบด้วยความร้อนต่ออีก 5-10 นาทีที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส เพื่อทำให้ใบชาแห้ง เมื่อใบชาแห้งแล้วจึงทำการบดใบชาให้ละเอียดเป็นผงโดยใช้โม่หินดั้งเดิมชาวญี่ปุ่นจะใช้โม่เห็นแกรนิตในการบด และทำการบดด้วยมือจนกว่าใบชานั้นจะเป็นผงเนียนละเอียด เมื่อใบอ่อนชาเขียวกลายมาเป็นผงแล้ว เราจึงเรียกผงนั้นว่า “มัทฉะ”
เมื่อเราได้มัทฉะแล้ว ก็สามารถนำมัทฉะนั้นไปสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ได้ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน หรือเครื่องดื่มตามที่เราชื่นชอบ ด้วยรสชาติที่เข้มข้นละมุนลิ้น กลิ่นที่ หอมแบบผ่อนคลาย สีสันน่ารับประทาน และอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงทำให้มัทฉะเป็นที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน มัทฉะมีอายุการใช้งานนานประมาณ 1-2 เดือน ควรเก็บรักษาไว้ในที่ที่พ้นแสง อุณหภูมิต่ำและไม่อับชื้น หากเก็บในตู้เย็นก็สามารถยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นได้ด้วยค่ะ
จากขั้นตอนทั้งหมดที่ได้กล่าวไปในข้างต้นนั้น ก็ทำให้ได้มาซึ่ง ‘มัทฉะ’ วัตถุดิบที สามารถนำไปทำอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลายและเป็นที่นิยม ด้วยความพิถีพิถันตั้งแต่การปลูกกระบวนการผลิต จนถึงวิธีการเก็บรักษา จึงทำให้มัทฉะมีสัมผัสและรสชาติที่นุ่มละมุนลิ้นแต่เข้มข้น หากใครอยากลองหาซื้อหรือสัมผัสมัทฉะคุณภาพดี ลองมาเลือกซื้อที Chado Matcha ได้นะคะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ